Saturday, March 22, 2025
หน้าแรกPerfumeMITH กลิ่น Nude น้ำหอมแนวอิโรติกรังสรรค์โดย Quentin Bisch

MITH กลิ่น Nude น้ำหอมแนวอิโรติกรังสรรค์โดย Quentin Bisch

น้ำหอมแบรนด์ MITH ได้เปิดตัวน้ำหอมกลิ่น Nude ที่รังสรรค์โดย Quentin Bish ที่เป็นนักปรุงน้ำหอมที่สร้างสรรรค์กลิ่นให้กับแบรนด์ชั้นนำหลายแบรนด์ จุดเด่นของเขาคือการผสมผสานกลิ่นหอมในรูปแบบที่แปลกใหม่และสร้างความแตกต่างจากน้ำหอมทั่วไป การเลือกใช้วัตถุดิบของเขาไม่เพียงแต่เป็นการจับคู่กลิ่น แต่ยังเป็นการบอกเล่าเรื่องราวและสร้างความรู้สึกที่ลึกซึ้งให้กับผู้ใช้

Nude น้ำหอมที่เผยเสน่ห์จากภายในที่ไร้การปกปิด

Quentin Bisch เป็นนักปรุงน้ำหอมที่ใส่ใจในรายละเอียดและสร้างสรรค์กลิ่นที่มีความหมายลึกซึ้ง หนึ่งในผลงานที่น่าประทับใจที่สุดคือ “NUDE” ซึ่งเป็นน้ำหอมที่เขาตั้งใจพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ แม้ว่าเพียงแค่ชื่ออาจให้ความรู้สึกเย้ายวน แต่แท้จริงแล้ว NUDE กลับสะท้อนถึงความงามที่บริสุทธิ์ ไร้การปรุงแต่ง และเผยให้เห็นเสน่ห์จากภายในอย่างแท้จริง

เมื่อได้สัมผัสกับกลิ่น NUDE เป็นครั้งแรก กลิ่นไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงความยั่วยวนหรืออนาจาร หากแต่เป็นการนำเสนอแนวคิดของความงดงามที่เรียบง่ายและแท้จริง ราวกับการเผยตัวตนที่ไม่ต้องการสิ่งใดปกปิด นี่คือสิ่งที่ Quentin ต้องการถ่ายทอดผ่านศิลปะของการปรุงน้ำหอม

โน๊ตของน้ำหอมกลิ่น NUDE

🔹 Top Notes (โน้ตแรก)Bergamot, Pear, Peach

โน้ตแรกเป็นกลิ่นที่สัมผัสได้ทันทีเมื่อฉีดน้ำหอม และมักจะสดชื่น เบา และกระจายตัวได้ดี แต่จะจางหายไปภายใน 10-30 นาที

  • Bergamot (มะกรูด) – ให้ความรู้สึกสดชื่น เปรี้ยวอมหวาน แฝงความซับซ้อนที่มีทั้งความสดใสและความหรูหรา
  • Pear (ลูกแพร์) – มอบกลิ่นหวานฉ่ำ สดชื่น คล้ายผลไม้ที่เพิ่งถูกปอกใหม่ๆ เพิ่มความละมุนให้กับโน้ตเปิด
  • Peach (ลูกพีช) – เติมความหวานแบบฟรุตตี้ มีความเนียนนุ่มและน่าทะนุถนอม ทำให้โน้ตแรกมีเสน่ห์และน่าหลงใหล

ความรู้สึกที่ได้: เปิดมาด้วยความสดชื่น นุ่มนวล และสดใสจากกลิ่นผลไม้ที่ให้ความรู้สึกหรูหราแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ


🔹 Middle Notes (โน้ตกลางหรือหัวใจของน้ำหอม)Violet Leaves, Peony, Lily-of-the-Valley

โน้ตกลางจะเผยออกมาเมื่อกลิ่นแรกจางลง และเป็นส่วนสำคัญที่กำหนดเอกลักษณ์ของน้ำหอม

  • Violet Leaves (ใบไวโอเล็ต) – ให้ความรู้สึกเขียว สดชื่น คล้ายใบไม้เปียกน้ำ มีความหอมแบบสะอาดและเป็นธรรมชาติ
  • Peony (ดอกพิโอนี) – ให้ความหอมแบบดอกไม้ที่อ่อนหวาน สดชื่น และโรแมนติก เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหรูหราแต่ไม่ฉุน
  • Lily-of-the-Valley (ดอกลิลลี่แห่งหุบเขา) – ให้กลิ่นหอมสะอาด นุ่มนวล และสดใส มักใช้เพื่อเพิ่มความเป็นเฟมินีนและความบริสุทธิ์ให้กับน้ำหอม

ความรู้สึกที่ได้: ดอกไม้หอมหวานแบบมีมิติ ไม่หวานเลี่ยนเกินไป แต่ให้สัมผัสของความโรแมนติก อ่อนโยน และมีเสน่ห์


🔹 Base Notes (โน้ตฐานหรือกลิ่นที่ติดทนที่สุด)Vetiver, Tonka Bean, Moss, Musk

โน้ตฐานคือกลิ่นที่ติดผิวได้นานและเป็นโครงสร้างหลักของน้ำหอม

  • Vetiver (หญ้าแฝก) – มอบกลิ่นแนวไม้ๆ มีความอบอุ่นและให้ความรู้สึกหรูหราแฝงไปด้วยความลึกลับ
  • Tonka Bean (ถั่วตองก้า) – ให้กลิ่นหวานนุ่มคล้ายวานิลลา แต่มีความอบอุ่นและเย้ายวนมากขึ้น
  • Moss (มอสส์) – เพิ่มสัมผัสของความเป็นธรรมชาติ ให้กลิ่นแบบป่าชื้นที่ลึกลับและสงบ
  • Musk (มัสก์) – เป็นโน้ตที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล เซ็กซี่ และติดผิว ช่วยให้กลิ่นทั้งหมดกลมกล่อมขึ้น

ความรู้สึกที่ได้: กลิ่นโทนอุ่น นุ่มลึก และมีเสน่ห์ติดผิว ทำให้น้ำหอมนี้มีความหรูหราและลึกลับในเวลาเดียวกัน


💡 บทสรุปของกลิ่นนี้

น้ำหอมนี้เริ่มต้นด้วยความสดชื่นและหอมหวานของผลไม้ ตามมาด้วยดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกโรแมนติก และจบด้วยกลิ่นฐานที่อบอุ่น เย้ายวน และลุ่มลึก ทำให้เป็นน้ำหอมที่มีมิติและน่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหราแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ

อยากให้อธิบายเพิ่มเติมไหม หรืออยากรู้ว่าน้ำหอมนี้เหมาะกับโอกาสไหน? 😊

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments